Agentic AI คืออะไร? ความหมาย ประโยชน์ และการใช้งานในธุรกิจ

04/09/2025
04/09/2025
04/Sep/2025 12:00 PM

Agentic AI คืออะไร? ความหมาย ประโยชน์ และการใช้งานในธุรกิจ

Agentic AI คืออะไร? ความหมาย ประโยชน์ และการใช้งานในธุรกิจ

Agentic AI คืออะไร? ความหมาย ประโยชน์ และการใช้งานในธุรกิจ

ในยุคที่เทคโนโลยี AI กำลังเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างรวดเร็ว เทรนด์ใหม่ที่กำลังมาแรงคือ Agentic AI ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่เครื่องมือที่ตอบคำถามหรือสร้างเนื้อหา แต่เป็น AI ที่สามารถคิด วางแผน และดำเนินการได้เหมือนผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญสูง สำหรับเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด และผู้ประกอบการที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการดำเนินงาน เทคโนโลยีนี้อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา

Agentic AI คืออะไร (Definition)

Agentic AI คือระบบปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถในการตัดสินใจและดำเนินการได้อย่างอิสระ โดยไม่จำเป็นต้องได้รับคำสั่งโดยตรงจากมนุษย์ในทุกขั้นตอน คำว่า "Agentic" มาจากคำว่า "Agent" หรือ "ตัวแทน" ซึ่งหมายถึงการที่ AI สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทนของเราในการปฏิบัติงานต่างๆ ได้

สิ่งที่ทำให้ Agentic AI แตกต่างจาก AI แบบเดิมคือความสามารถในการ:

  • วางแผนกลยุทธ์ (Strategic Planning): สามารถวิเคราะห์สถานการณ์และกำหนดแผนการดำเนินงานได้เอง
  • ตัดสินใจได้อย่างอิสระ (Autonomous Decision Making): ไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งจากมนุษย์ในทุกการตัดสินใจ
  • ปรับตัวได้ตามสถานการณ์ (Adaptive Response): สามารถเปลี่ยนแปลงวิธีการทำงานเมื่อเจอสถานการณ์ใหม่
  • เรียนรู้จากประสบการณ์ (Experience-based Learning): พัฒนาประสิทธิภาพจากการทำงานที่ผ่านมา

สำหรับผู้ประกอบการและนักการตลาดที่กำลังมองหาโซลูชันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางธุรกิจ Agentic AI จะเป็นเหมือนการมีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมทำงาน 24/7 โดยไม่ต้องพักผ่อนและสามารถจัดการงานหลายอย่างพร้อมกันได้

ความแตกต่างระหว่าง Agentic AI และ Generative AI

หลายคนอาจสับสนระหว่าง Agentic AI และ Generative AI แต่ความจริงแล้วทั้งสองมีบทบาทและความสามารถที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน

Generative AI: นักสร้างสรรค์เนื้อหา

Generative AI เป็น AI ที่เชี่ยวชาญด้านการสร้างเนื้อหาใหม่ ไม่ว่าจะเป็น:

  • การเขียนบทความและเนื้อหาการตลาด
  • การสร้างรูปภาพและกราฟิกดิไซน์
  • การแต่งเพลงและสร้างเสียง
  • การเขียนโค้ดโปรแกรม

ตัวอย่างที่คุ้นเคยคือ ChatGPT, DALL-E, หรือ Midjourney ที่ช่วยสร้างเนื้อหาตามที่เราร้องขอ

Agentic AI: ผู้ช่วยที่คิดและกระทำได้

ในขณะที่ Agentic AI มีความสามารถที่ครอบคลุมกว่า:

  • วางแผนและดำเนินการ: ไม่ใช่แค่สร้างเนื้อหา แต่วางแผนกลยุทธ์การตลาดทั้งแคมเปญ
  • ติดต่อสื่อสารกับระบบต่างๆ: สามารถเชื่อมต่อและจัดการข้อมูลจากหลายแพลตฟอร์ม
  • ตัดสินใจเชิงธุรกิจ: วิเคราะห์ข้อมูลและตัดสินใจปรับกลยุทธ์ตามสถานการณ์
  • จัดการโครงการ: ควบคุมและติดตามความคืบหน้าของงานต่างๆ

สำหรับธุรกิจแล้ว หากเปรียบเทียบกับทีมงาน Generative AI เหมือนนักออกแบบกราฟิกที่เก่งมาก ส่วน Agentic AI เหมือนผู้จัดการโครงการที่สามารถควบคุมทีมทั้งหมดและตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้

ตารางเปรียบเทียบ


สำหรับใครที่ต้องการยกระดับศักยภาพทีม และแบรนด์ของคุณไปอีกขั้น! 

ที่ STEPS Academy เรามีทั้ง Corporate Training & In-house Programs เพื่ออบรมทีมดิจิทัล, พร้อม Agentic-AI Solutions ที่จะช่วยให้คุณทำการตลาดได้สะดวก และรวดเร็วกว่าเดิม 

สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาฟรี และค้นหาหลักสูตร/โซลูชันที่เหมาะที่สุดกับธุรกิจของคุณ กับทางทีมงาน STEPS Academy ได้เลย! หรือ สามารถแอดไลน์มาได้ที่ Line OA : @stepstraining



ประโยชน์ของ Agentic AI ต่อธุรกิจ

สำหรับเจ้าของธุรกิจและผู้ประกอบการ Agentic AI มอบประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมและสามารถวัดผลได้ชัดเจน

1. เพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน

Agentic AI สามารถทำงานได้ 24 ชั่วโมงโดยไม่ต้องพัก ช่วยให้:

  • ลดเวลาในการตัดสินใจ: จากหลายวันเหลือไม่กี่นาที
  • เพิ่มความแม่นยำ: ลดข้อผิดพลาดจากการทำงานของมนุষย์
  • จัดการงานหลายอย่างพร้อมกัน: สามารถรับผิดชอบหลายโปรเจกต์ในเวลาเดียวกัน

2. ลดต้นทุนการดำเนินงาน

การใช้ Agentic AI ช่วยลดต้นทุนในหลายด้าน:

  • ต้นทุนบุคลากร: ลดความจำเป็นในการจ้างพนักงานสำหรับงานประจำ
  • ต้นทุนการฝึกอบรม: AI ไม่ต้องฝึกอบรมซ้ำๆ เหมือนพนักงานใหม่
  • ต้นทุนข้อผิดพลาด: ลดความเสียหายจากการตัดสินใจผิดพลาด

3. ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

Agentic AI ช่วยยกระดับการบริการลูกค้า:

  • การตอบสนองที่รวดเร็ว: ลูกค้าได้รับคำตอบทันที
  • ความเป็นส่วนตัว: สามารถปรับแต่งบริการตามความต้องการของแต่ละคน
  • ความต่อเนื่อง: บริการไม่หยุดชะงักแม้จะเป็นวันหยุด

4. การวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกซึ้ง

ด้วยความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาล:

  • ค้นหาแนวโน้มที่มนุษย์อาจมองข้าม: วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในรายละเอียด
  • พยากรณ์ที่แม่นยำ: คาดการณ์ยอดขายและแนวโน้มตลาด
  • การตัดสินใจที่อิงข้อมูล: ทุกการตัดสินใจมีข้อมูลรองรับ

5. ความยืดหยุ่นในการปรับขนาดธุรกิจ

Agentic AI ช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ:

  • ขยายธุรกิจได้รวดเร็ว: ไม่ต้องรอสรรหาพนักงานใหม่
  • ลดความเสี่ยง: ทดสอบกลยุทธ์ใหม่ได้อย่างปลอดภัย
  • ปรับตัวตามตลาด: เปลี่ยนแปลงทิศทางได้ทันต่อเหตุการณ์

ตัวอย่างการใช้งาน Agentic AI

เพื่อให้เข้าใจการประยุกต์ใช้งาน Agentic AI ในธุรกิจจริง มาดูตัวอย่างการใช้งานที่เป็นรูปธรรม:

1. การตลาดดิจิทัลอัจฉริยะ

กรณีศึกษา: บริษัทขายเสื้อผ้าออนไลน์

  • การวางแผนแคมเปญ: Agentic AI วิเคราะห์เทรนด์แฟชั่น พฤติกรรมลูกค้า และกำหนดกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม
  • การจัดการโฆษณา: ปรับบิดโฆษณา Facebook และ Google Ads อัตโนมัติตามผลประกอบการ
  • การสร้างเนื้อหา: เขียนโพสต์โซเชียลมีเดีย ตอบข้อความลูกค้า และสร้างอีเมลการตลาด
  • การวิเคราะห์ผล: รายงานประสิทธิภาพแคมเปญและเสนอแนะการปรับปรุง

ผลลัพธ์: เพิ่มยอดขายขึ้น 40% และลดต้นทุนการตลาดลง 25%

2. การบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM)

กรณีศึกษา: บริษัทให้บริการซอฟต์แวร์

  • การจัดกลุ่มลูกค้า: วิเคราะห์และจัดลูกค้าเป็นกลุ่มตามพฤติกรรมการใช้งาน
  • การพยากรณ์ลูกค้าที่อาจยกเลิก: ระบุลูกค้าที่มีความเสี่ยงสูงล่วงหน้า
  • การติดตามอัตโนมัติ: ส่งอีเมลติดตามและจัดการนัดหมายกับลูกค้า
  • การเสนอขายเพิ่มเติม: แนะนำผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับแต่ละลูกค้า

ผลลัพธ์: เพิ่มอัตราการคงอยู่ของลูกค้า (Retention Rate) จาก 75% เป็น 89%

3. การจัดการห่วงโซ่อุปทาน

กรณีศึกษา: ร้านอาหารหลายสาขา

  • การบริหารคลังสินค้า: คาดการณ์ความต้องการและสั่งซื้อวัตถุดิบอัตโนมัติ
  • การหาซัพพลายเออร์: เปรียบเทียบราคาและคุณภาพจากผู้จัดจำหน่ายหลายราย
  • การกระจายสินค้า: วางแผนการส่งวัตถุดิบไปยังสาขาต่างๆ ให้มีประสิทธิภาพ
  • การจัดการความเสี่ยง: ติดตามสถานการณ์ตลาดและปรับแผนการสั่งซื้อ

ผลลัพธ์: ลดต้นทุนการจัดซื้อลง 18% และลดการสูญเสียจากสินค้าเน่าเสียลง 60%

4. การบริการลูกค้าอัจฉริยะ

กรณีศึกษา: บริษัทให้บริการโทรคมนาคม

  • การตอบคำถามอัตโนมัติ: แก้ไขปัญหาพื้นฐานได้มากกว่า 80% โดยไม่ต้องมีมนุษย์เข้ามาช่วย
  • การวิเคราะห์อารมณ์: ประเมินความพึงพอใจของลูกค้าและเรียกพนักงานคนมาช่วยเมื่อจำเป็น
  • การแก้ไขปัญหาเชิงรุก: ระบุปัญหาก่อนลูกค้าจะร้องเรียนและดำเนินการแก้ไข
  • การติดตามผลหลังการให้บริการ: ส่งแบบสำรวจและปรับปรุงบริการตามข้อเสนอแนะ

ผลลัพธ์: เพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าจาก 7.2/10 เป็น 9.1/10

5. การวิเคราะห์การเงินและการลงทุน

กรณีศึกษา: บริษัทให้คำปรึกษาทางการเงิน

  • การวิเคราะห์ความเสี่ยง: ประเมินผลกระทบของการลงทุนในแต่ละตัวเลือก
  • การติดตามตลาด: วิเคราะห์แนวโน้มราคาหุ้นและคอมโมดิตี้ตลอด 24 ชั่วโมง
  • การสร้างพอร์ตโฟลิโอ: จัดสรรการลงทุนที่เหมาะสมกับโปรไฟล์ความเสี่ยงของลูกค้า
  • การรายงานผลการดำเนินงาน: สร้างรายงานที่เข้าใจง่ายและให้คำแนะนำการปรับปรุง

ผลลัพธ์: เพิ่มผลตอบแทนการลงทุนให้ลูกค้าโดยเฉลี่ย 15% ต่อปี

การประยุกต์ใช้ตามขนาดธุรกิจ

สำหรับธุรกิจขนาดเล็ก (SME):

  • ระบบการสั่งซื้อออนไลน์อัตโนมัติ
  • การจัดการโซเชียลมีเดียและตอบข้อความลูกค้า
  • การทำบัญชีและการเงินพื้นฐาน

สำหรับธุรกิจขนาดกลาง:

  • ระบบการบริหารจัดการลูกค้าสัมพันธ์แบบครบวงจร
  • การวิเคราะห์ข้อมูลการขายและการตลาด
  • การจัดการห่วงโซ่อุปทานและสินค้าคงคลัง

สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่:

  • การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกสำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์
  • การจัดการความเสี่ยงแบบครบวงจร
  • การพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่



สำหรับใครที่ต้องการยกระดับศักยภาพทีม และแบรนด์ของคุณไปอีกขั้น! 

ที่ STEPS Academy เรามีทั้ง Corporate Training & In-house Programs เพื่ออบรมทีมดิจิทัล, พร้อม Agentic-AI Solutions ที่จะช่วยให้คุณทำการตลาดได้สะดวก และรวดเร็วกว่าเดิม 

สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาฟรี และค้นหาหลักสูตร/โซลูชันที่เหมาะที่สุดกับธุรกิจของคุณ กับทางทีมงาน STEPS Academy ได้เลย! หรือ สามารถแอดไลน์มาได้ที่ Line OA : @stepstraining



คำถามที่พบบ่อย

Agentic AI ต่างจาก Generative AI อย่างไร?


คำตอบ: ความแตกต่างหลักอยู่ที่ขอบเขตการทำงานและระดับความเป็นอิสระ

Generative AI เป็นเครื่องมือที่เชี่ยวชาญด้านการ "สร้าง" เนื้อหาใหม่ เช่น การเขียนบทความ การวาดรูป การแต่งเพลง โดยทำงานตามคำสั่งที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง คุณต้องบอกว่าต้องการให้สร้างอะไร อย่างไร และในรูปแบบใด

Agentic AI มีขอบเขตการทำงานที่กว้างกว่า สามารถ "คิด วางแผน และกระทำ" ได้เหมือนผู้ช่วยที่มีความเชี่ยวชาญ ไม่ใช่แค่สร้างเนื้อหา แต่สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ กำหนดแผนการดำเนินงาน ติดต่อกับระบบต่างๆ และตัดสินใจปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ตามสถานการณ์ได้

ตัวอย่างเปรียบเทียบ:

  • Generative AI: "กรุณาเขียนอีเมลการตลาดสำหรับสินค้าใหม่" → ได้อีเมลหนึ่งฉบับ
  • Agentic AI: "ช่วยเพิ่มยอดขายสินค้าใหม่" → วางแผนแคมเปญทั้งหมด เขียนอีเมลการตลาด กำหนดเวลาส่ง วิเคราะห์ผลลัพธ์ และปรับปรุงกลยุทธ์ต่อไป

ธุรกิจประเภทใดควรเริ่มใช้ Agentic AI?

คำตอบ: Agentic AI เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท แต่จะเห็นผลชัดเจนมากที่สุดในธุรกิจที่มีลักษณะดังนี้:

ธุรกิจที่ควรเริ่มใช้ก่อน:

  1. ธุรกิจที่มีข้อมูลลูกค้าเยอะ: เช่น อีคอมเมิร์ส ธนาคาร บริษัทประกันภัย
  2. ธุรกิจที่ต้องตอบสนองลูกค้าตลอดเวลา: เช่น บริการด้านการท่องเที่ยว โรงแรม บริการออนไลน์
  3. ธุรกิจที่มีกระบวนการทำงานซ้ำๆ: เช่น การผลิต การขนส่ง การจัดการสินค้าคงคลัง
  4. ธุรกิจที่แข่งขันสูง: ต้องการความได้เปรียบในการตัดสินใจที่รวดเร็วและแม่นยำ

สัญญาณที่บอกว่าธุรกิจพร้อมใช้ Agentic AI:

  • พนักงานใช้เวลามากกับงานประจำที่ทำซ้ำๆ
  • มีข้อมูลลูกค้าหรือการขายเยอะแต่วิเคราะห์ไม่ทัน
  • ต้องการเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองลูกค้า
  • อยากลดต้นทุนการดำเนินงานแต่ยังคงคุณภาพ
  • ต้องการขยายธุรกิจแต่หาคนทำงานยาก

วิธีเริ่มต้นสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก:

  1. เริ่มจากงานง่ายๆ เช่น การตอบข้อความลูกค้าหรือการสร้างโพสต์โซเชียล
  2. ทดลองใช้เครื่องมือที่มีอยู่แล้วก่อนพัฒนาระบบใหม่
  3. วัดผลอย่างชัดเจนว่าช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนได้เท่าไร
  4. ค่อยๆ ขยายไปยังงานที่ซับซ้อนขึ้นเมื่อเห็นผลลัพธ์ที่ดี

สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่:

  1. สามารถเริ่มต้นด้วยการนำไปใช้ในแผนกที่มีข้อมูลเยอะ เช่น แผนกการตลาด การขาย หรือ HR
  2. ควรมีทีม IT ที่แข็งแกร่งเพื่อรองรับการเชื่อมต่อกับระบบที่มีอยู่
  3. ต้องมีการวางแผนด้านความปลอดภัยข้อมูลอย่างรอบคอบ

สรุป

Agentic AI คือก้าวใหม่ของเทคโนโลยี AI ที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าการทำธุรกิจในอนาคตอันใกล้ สำหรับเจ้าของธุรกิจ นักการตลาด และผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน เทคโนโลยีนี้เสนอโซลูชันที่ครอบคลุมตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ไปจนถึงการดำเนินการจริง

ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรม ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน การลดต้นทุน การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า และการวิเคราะห์ข้อมูลที่ลึกซึ้งกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดเล็กหรือใหญ่ ทุกคนสามารถเริ่มต้นใช้ Agentic AI ได้ตามความพร้อมและความต้องการของตัวเอง

การลงทุนใน Agentic AI วันนี้ ไม่ใช่แค่การเตรียมตัวสำหรับอนาคต แต่เป็นการสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันที่จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนในยุคดิจิทัล



สำหรับใครที่ต้องการยกระดับศักยภาพทีม และแบรนด์ของคุณไปอีกขั้น! 

ที่ STEPS Academy เรามีทั้ง Corporate Training & In-house Programs เพื่ออบรมทีมดิจิทัล, พร้อม Agentic-AI Solutions ที่จะช่วยให้คุณทำการตลาดได้สะดวก และรวดเร็วกว่าเดิม 

สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาฟรี และค้นหาหลักสูตร/โซลูชันที่เหมาะที่สุดกับธุรกิจของคุณ กับทางทีมงาน STEPS Academy ได้เลย! หรือ สามารถแอดไลน์มาได้ที่ Line OA : @stepstraining