Google Analytics คืออะไร? สอนวิธีใช้แบบง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้
Google Analytics คืออะไร? สอนวิธีใช้แบบง่าย ๆ สำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้
ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจออนไลน์ประเภทไหน มีขนาดองค์กรใหญ่หรือเล็ก ล้วนแล้วแต่มีการแข่งขันในโลกดิจิทัล เพื่อให้แบรนด์สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน และเป็นที่รู้จักมากขึ้น ซึ่งการใช้เครื่องมือเพื่อวัดผลทางการตลาดหรือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้ธุรกิจออนไลน์ สามารถสร้างโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักในโลกโซเชียลมีเดีย และยกระดับธุรกิจให้เดินหน้าต่อไปในอนาคต
สำหรับวันนี้ STEPS Acaedmy จะพาคุณไปรู้จักเครื่องมือดิจิทัลที่เป็นกำลังเป็นที่นิยม เพื่อช่วยให้การทำธุรกิจของคุณกลายเป็นเรื่องง่าย และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ เพื่อต่อยอดการทำการตลาดในอนาคต เจ้าเครื่องมือที่เราจะมาพูดถึงกันในวันนี้คือ Google Analytics ค่ะ
Click Through Rate หรือ CTR คืออะไร ?
ภาพจาก: lyfemarketing.com
Google Analytics คือ เครื่องมือที่สามารถวัดผลประสิทธิภาพของเว็บไซต์ ด้วยการนำข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์มาวิเคราะห์ ซึ่งจะเป็นลักษณะการเก็บสถิติแบบละเอียด ว่าผู้ที่เข้ามาใช้งานคือใคร โดยแบ่งตามลักษณะดังต่อไป คือ
ความสามารถของ Google Analytics
ผู้เขียนได้รวบรวมความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลของ Google Analytics และสิ่งที่สามารถนำไปพัฒนาเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ดังนี้
หากคุณสนใจบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิค SEO เพิ่มเติม คลิก >> ทำความรู้จักกับ E-A-T เพื่อปรับปรุง SEO และ เทคนิคการเขียนบทความให้ติดหน้าแรกของ Google
หน้าเว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนหน้าร้านของคุณ ดังนั้นการหมั่นอัปเดตหน้าเว็บไซต์ให้น่าสนใจ ไม่ต้องรอโหลดหน้าเว็บนาน แถมยัง ค้นหาเจอง่ายบน Google คือวิธีการสร้างแบรนด์ที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการควรให้ตวามสำคัญเพื่อเพิ่มฐานลูกค้าและยอดขายด้วยการปรับปรุงหน้าเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ โดยเครื่องมือ Google Analytics นี่แหละค่ะจะเข้ามาเป็นตัวช่วยที่สำคัญในการต่อยอดธุรกิจให้แบรนด์ของคุณได้เปรียบในยุคดิจิทัล ซึ่งในปัจจุบันนักออกแบบเว็บไซต์นิยมใช้โปรแกรม Google Analytics มากถึง 56 % กันเลยทีเดียว (ข้อมูลจาก lyfemarketing)
จากภาพด้านล่าง เป็นหน้าตาของโปรแกรม Google Analytics ซึ่งการรายงานผลต่าง ๆ จะอยู่ทางด้านซ้ายมือ ซึ่งจะมีรายงานหลัก ๆ ทั้งหมด 4 ประเภท โดยแต่ละประเภทก็จะมีเครื่องมืออื่น ๆ ที่เป็นรายละเอียดย่อยลงมา ส่วนด้านขวาจะเป็นการรายงานจำนวน User ที่เข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ ณ ขณะนั้นค่ะ
เครื่องมือ Google Analytics ที่ใช้ในการวิเคราะห์เว็บไซต์
เครื่องมือ Google Analytics ที่ใช้ในการวิเคราะห์เว็บไซต์
ภาพจาก: lyfemarketing.com
วิธีการติดตั้ง Google Analytics
สำหรับผู้เริ่มต้นใช้เครื่องมือนี้ไม่ต้องกังวลค่ะ เราจะเริ่มต้นการใช้งานกันแบบ Step by Step โดยเริ่มจาก...
1. ติดตั้งแอคเคาท์ Google Tag Manager
ภาพจาก: lyfemarketing.com
เราสามารถเริ่มต้นใช้เครื่องมือ Google Analytics ด้วยการติดตั้งระบบ Google Tag Manager บน Google เพื่อสมัครแอคเคาท์ที่จะใช้ ซึ่งตรงนี้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยที่เราจะเข้าไปที่เว็บไซต์ tagmanager.google.com
วิธีการทำงานของ Google Tag คือการนำข้อมูลของแบรนด์ที่เรามีอยู่ในเว็บไซต์มาลงที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Facebook และ Google Analytics ซึ่งเป็นวิธีการที่ง่ายและประหยัดเวลาเนื่องจาก ระบบจะมีการอัปเดตหรือแท็ก Code ให้โดยไม่ต้องเสียเวลาเขียน Code ขึ้นมาใหม่อีกตัวอย่างเช่น
หากคุณมีต้องการวัดผลจากปุ่ม Click ต่างๆบนหน้าเว็บไซต์ คุณสามารถใช้เจ้า Tag Manager ตัวนี้ เพื่อเข้าช่วยในการเพิ่มลิงก์ ซึ่งคุณไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนลิงก์ด้วยตัวเอง เป็นต้น
ผู้เริ่มต้นใช้จะต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ ของแบรนด์รวมทั้งใส่ลิงก์ของเว็บไซต์เพื่อสร้าง Tag Manager ขึ้น เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วกด Create ซึ่งจะมีหน้าต่าง Agreement หรือข้อตกลงต่าง ๆ ที่เราควรทราบปรากฏขึ้น โดยเราจะกด ยอมรับ เพื่อดำเนินการขั้นตอนต่อไป
2. ติดตั้งแอคเคาท์ Google Analytics
ภาพจาก: lyfemarketing.com
ลำดับต่อไป เราจะทำการสร้างแอคเคาท์ใหม่ขึ้นบน Google Analytics ซึ่งมีลักษณะคล้ายกันกับ Tag Manager โดยการสมัครแอคเคาท์ตรงนี้ไม่มีค่าใช้จ่ายเช่นกันค่ะ
เมื่อทำการสมัครเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับ Tracking ID ซึ่งเป็น Code ที่เอาไว้ติดตามและเก็บข้อมูลเพื่อนำไปวิเคราะห์และวัดผล ซึ่งตัวเลขที่ได้มาจะเป็นข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญมากในการนำไปต่อยอดการทำการตลาดในอนาคต ดังนั้น ผู้ที่มีข้อมูลสถิติเหล่านี้อยู่ในมือควรเผยแพร่ภายในทีมหรือองค์กรให้รับรู้เพียงกลุ่มเดียว เพื่อนำไปปรับใช้ในการวางแผนสร้างแคมเปญในอนาคต
3. ใช้ Google Tag Manager ในการติดตั้ง Analytics Tags
Tracking ID ที่คุณสร้างขึ้นจะถูกนำมาใช้งานในส่วนนี้เพื่อสร้าง Tag สำหรับการวัดผลบนหน้าเว็บไซต์ ซึ่งผู้ใช้จะต้องเลือกการตั้งค่าประเภท “Universal Analytics.” เพื่อเก็บข้อมูลจากหน้าเว็บไซต์ค่ะ
Google Tag Manager ทำงานอย่างไร
Tag Manager ใน Google ประกอบไปด้วย 3 ส่วนหลัก ๆคือ
ตัวอย่าง Tag ที่ใช้ใน Tag Manager
ภาพจาก: https://www.orbitmedia.com/
ตัวอย่างประเภท Triggers ที่ใช้ใน Tag Manager
ภาพจาก: https://www.orbitmedia.com/
ตัวอย่างประเภท Variable ที่ใช้ใน Tag Manager

ภาพจาก: https://www.orbitmedia.com/
หลังจากที่กำหนดการทำงานของ Tag, Trigger, และ Variable เรียบร้อยแล้ว สามารถกด Submit และ Publish เพื่อเริ่มทำงานได้เลย
4. การตั้ง Goals ในระบบ Google Analytics
โดยปกติแล้ว การตั้งเป้าหมายในการทำธุรกิจออนไลน์ เป็นเรื่องที่ผู้ประกอบการจะต้องวางแผนกันมาล่วงหน้า เพื่อคาดการณ์ผลกำไรที่จะได้รับ รวมไปถึงเป้าหมายที่ต้องการไปถึง ซึ่งผู้ใช้เครื่องมือ Google Analytics สามารถนำข้อมูลต่าง ๆ จากการรายงานมาวิเคราะห์ผลได้เลยค่ะ

ภาพจาก: https://www.lyfemarketing.com
การตั้งเป้าหมาย (Goal)ในการทำธุรกิจออนไลน์ในระบบ Analytics เป็นเรื่องสำคัญมาก เนื่องจากระบบจะสามารถวัดค่าต่าง ๆ ออกมาในรูปแบบของตัวเลข กราฟ และชาร์ตต่าง ๆ เพื่อให้ผู้ใช้ทราบว่า กลยุทธ์ที่ได้วางแผนไปนั้นเป็นไปตามจุดประสงค์หรือไม่ สำเร็จกี่เปอร์เซ็นต์ หรือมีส่วนไหนที่หน้าเว็บไซต์ควรแก้ไขเพื่อให้ Performance ดีขึ้น
การเลือกเป้าหมายในระบบการตั้งค่าสามารถเลือกได้หลากหลาย ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้เหมาะสมกับเว็บไซต์ของท่าน ซึ่งมีรายละเอียดการตั้งค่า Goal ดังนี้
1 Destination:
ข้อมูลจะถูกนำมาวัดผลเมื่อ User เข้ามาที่หน้าเว็บไซต์หน้าใดหน้าหนึ่ง
2 Duration:
ข้อมูลจะถูกนำมาวัดผลเมื่อ User เข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ในระยะเวลาหนึ่ง
3 Pages or Screens Per Session:
ข้อมูลจะถูกนำมาวัดผลเมื่อ User เข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ในหน้าต่าง ๆ ที่กำหนด
4 Event:
ข้อมูลจะถูกนำมาวัดผลเมื่อ User เล่นวิดีโอ หรือคลิกลิงก์ที่กำหนดเอาไว้
5. เพิ่มช่องทางการค้นหาเว็บไซต์ของเราบน Google Search Console

ภาพจาก: https://www.lyfemarketing.com
Google Search Console คืออะไร ?
Google Search Console คือเครื่องมือที่ช่วยดูแลและตรวจสอบเว็บไซต์ของเรา ให้ปรากฏขึ้นบนหน้าเว็บ Google ซึ่งสามารถใช้ได้ฟรี
การทำงานของเครื่องมือ Search Console:
หลังจากที่ Google Analytics ติดตั้งเรียบร้อยแล้วเรามาดูกันที่ Report หลัก ๆ ที่นักการตลาดนิยมใช้เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์กันค่ะ
ข้อมูลจาก Audience จะรายงานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เข้ามายังหน้าเว็บไซต์ของเราในลักษณะของ
1. ภูมิประชากรศาสตร์ เช่น อายุ เพศ เมืองที่อาศัยอยู่
2. ข้อมูลที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกค้า เช่น อุปกรณ์ที่ใช้เมื่อเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ ระบบปฏิบัติการ มีความสนใจในสินค้าและบริการตัวไหนเป็นพิเศษ
คือรายละเอียดเกี่ยวกับช่องทางที่ลูกค้าเข้ามายังหน้าเว็บไซต์ ว่ามาจากแพลตฟอร์มอะไร เช่น Instagram, Facebook หรือการเสิร์ชจากหน้า Google
คือพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้า เช่น ลูกค้าเข้ามาที่หน้าเว็บไซต์ไหนเป็นหน้าแรก และออกจากเว็บไซต์ที่หน้าไหน และระยะเวลาที่ใช้บนหน้าเว็บไซต์
คือรายงานที่เกี่ยวกับข้อมูลการคลิกจากกิจกรรมต่าง ๆ บนหน้าเว็บไซต์ เช่น การกดเลือกสินค้าใส่ตะกร้า การชำระเงิน การกดรับ Promo Code เป็นต้น
Google Analytics เป็นเครื่องมือที่สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการ สามารถวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าที่มีเพื่อนำไปพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้แบรนด์เข้าใจว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใครได้ในเชิงลึก ทำให้เราสามารถประหยัดเวลาในการเลือกช่องทางการโปรโมตสินค้า นอกจากนี้ยังสามารถนำข้อมูลเหล่านี้ไปวิเคราะห์ในการทำ Remarketing ได้ในอนาคตอีกด้วย
lyfemarketing.com
marketingplatform.google.com
bigdata-madesimple.com